ฤษฎีสัมพันธภาพ...ความจริงแห่งอนัตตาเพียงมายาหรืออัตตาที่เปลี่ยนแปลง? น.ส. นพมาศ พันธุ์มณี
|
" อนัตตา มิได้ปฏิเสธ อัตตา เพียงแต่ ปฏิเสธความคงเดิมของอัตตาที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง " และนี่ คือความเป็นจริงที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นำมาตีแผ่ให้ชาวโลกได้รับรู้ในรูปของสมการ E = mc2 ก่อน อื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สสารทุกยังอย่างที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตา สัมผัสได้ด้วยมือ มันเป็นเพียงมายาภาพ ทุกอย่าง เกิด - ดับ อยู่ในตัวของมันเองตลอดเวลา วัตถุหนึ่งจะประกอบไปอนุภาคเล็กๆ เรียกว่า อะตอม เดิมที0นักวิทยาศาสตร์เคยคิดว่าอะตอมเป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดแต่ต่อมาก็ได้ค้นพบว่าอะตอมนั้นยังประกอบไปด้วยอนุภาคย่อยอีก 3 อนุภาค คือ นิวตรอน โปรตรอน และอิเลคตรอนซึ่งปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังได้ค้นพบอนุภาคที่เล็กลงไปยิ่งกว่านั้น นั่น คืออนุภาคที่เรียกว่า ฟอค ใน 1 นิวตรอน จะประกอบไปด้วย ฟอค ทั้งหมด 3 ฟอค เช่นเดียวกับใน 1 อิเลคตรอน และ 1 โปรตรอน ที่จะประกอบด้วย ฟอค ทั้ง 3 ฟอค เช่นกัน อนุภาคย่อยๆ เหล่านี้ได้ประกอบเข้าด้วยกันเป็นอนุภาคใหญ่ๆ อนุภาคที่เรียกว่า 'ฟอค' ก่อนที่มันจะมารวมเป็น นิวตรอน โปรตรอน อิเลคตรอน และก่อเกิดสสารขึ้นมามันจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาในตัวของ มันเอง ทำให้เราไม่สามารถทราบถึงตำแหน่งที่แน่นอนของมันได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราสามารถกำหนดตำแหน่งของฟอคได้ เราจะไม่สามารถทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของมันได้เลย ยกตัวอย่างเช่น หนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ในมือของเรา ในขณะที่เรา ถือมัน เราสามารถรับรู้ได้ว่านี่คือหนังสือมีตัวมีตนอยู่จริง ทว่า เพียงเศษเสี้ยวของวินาทีหนังสือเล่มนี้มันกลับไร้ซึ่งตัวตน เป็นเพียงกลุ่มก้อนของพลังงาน และกลับปรากฏรูปร่างขึ้นมาให้เราเห็นในอีกเพียงเสี้ยวหนึ่งของวินาที การแปรเปลี่ยนสลับไปมาระหว่างอนุภาคและพลังงานที่รวดเร็วจนเราไม่รู้สึกตัวนี้เอง คือการ เกิด - ดับ ที่เป็นอนัตตา เมื่อลองพิจารณาดูแล้วจะสังเกตได้ว่า การเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการเกิด - ดับ ของสสารนี้จะถูกควบคุม โดย กาลเวลา เสมอ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะต้องอาศัยเวลาไม่ว่าจะเป็น นาที วินาที หรือแม้เพียงเสี้ยวนาที ในจุดนี้เองที่ไอน์สไตน์ได้อธิบายเอาไว้ในทฤษฎีสัมพันธภาพว่า สรรพสิ่งในจักรวาลมิได้ดำรงอยู่เพียง 3 มิติ คือ กว้าง ยาว ลึก หากแต่ ยังดำรงอยู่ในมิติที่ 4 คือ มิติแห่งกาลเวลา อีกด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลแม้แต่มนุษย์ ล้วนดำรงอยู่ใน 4 มิติ ทว่า น้อยคนที่จะสามารถสัมผัสถึงมิติที่ 4 แห่งกาลเวลานี้ได้ มิติที่ 4 หรือ มิติแห่งกาลเวลา มีสภาพเป็นสุญญากาศ ไม่มีสิ่งใดจะสามารถเล็ดลอดเข้าไปในมิตินี้ได้ นอกเสีย จากสิ่งๆ นั้นจะมีสภาพเป็นพลังงานอันไร้ตัวตน จากสมการ E = mc2 ไอน์สไตน์ได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกสามารถเปลี่ยนแปลงจากรูปของสสารกลาย เป็นพลังงาน และเปลี่ยนแปลงจากพลังงานกลายเป็นสสารได้ โดย 'หากมีการสูญหายของสสารเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน เกิดขึ้น สสารมีมวล m เมื่อเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน จะเกิดเป็นพลังงานที่ขนาดหรือปริมาณที่ E โดยที่ c เป็นความเร็วของ แสงในสูญญากาศ มีค่าประมาณ 300,000 กม/วินาที ' ( ชัยวัฒน์ คุประตกุล ; 2543 : 40 ) ในจุดนี้ เองที่ไอน์ไตน์แสดงให้เห็นว่า สสารและพลังงานนั้นเป็นสิ่งเดียวกันหากแต่คงสถานะต่างกัน และสสารเหล่านี้ ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเป็นพลังงานอยู่ทุกวินาที เมื่อใดก็ตามที่อนุภาคเล็กๆ คือ ฟอค อันเป็นส่วนประกอบของสสารหยุดการแปรเปลี่ยนในตัวของมันเองซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดรูปร่างเป็นสสารขึ้น นั่นหมายถึงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ทั้งที่มองเห็น ได้ด้วยตา สัมผัสได้ด้วยมือ สรรพสิ่งที่มีอยู่จริงในจักรวาลมันพร้อมที่จะสูญสลายหายไปอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับการ เกิด - ดับ ในทางพุทธศาสนา ที่มิใช่ว่า เมื่อมีเกิดย่อมต้องมีดับ หากการ เกิด - ดับ มันคงอยู่ตลอดเวลาในทุกสภาวะ สรรพสิ่งกำเนิดขึ้นเพื่อพร้อมที่จะดับ และดับลงเพื่อพร้อมที่จะเกิด มิใช่กำเนิดขึ้นเพื่อดับลงชั่วนิรันดร์ และมิใช่ดับลงเพื่อ กำเนิดเป็นอมตะ หากแต่ 'เกิด - ดับ' อยู่ทุกเสี้ยววินาทีภายใต้การควบคุมของกฎแห่งกาลเวลา และพร้อมที่จะแปรเปลี่ยน จากสถานะหนึ่งไปยังอีกสถานะหนึ่ง ภายใต้กฎเกณฑ์แห่งกาลเวลาเช่นเดียวกัน การ เกิด - ดับ ของสรรพสิ่งที่จะวนเวียนไม่รู้จบสิ้น
' วัฏ ' ที่เวียนวนไม่มีวันสิ้นสุด หนทางที่จะหลุดพ้นจาก สภาวะเช่นนี้ได้
คือการก้าวขึ้นไปให้อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของกาลเวลา นั่นหมายถึงว่าเราจะต้องเปลี่ยนสภาวะแห่งตน
จากสสาร ให้คงอยู่ในรูปของพลังงานแล้วก้าวข้ามไปในมิติแห่งกาลเวลา เพื่อยืนอยู่เหนือการเปลี่ยนแปลง
เกิด - ดับ ที่มีเวลาเป็นตัว กำหนดและการที่จะทำเช่นนั้นได้ก็คือการฝึกพลังแห่ง
'จิต' พลังงานอันยิ่งใหญ่ที่เร้นอยู่ภายในส่วนลึกของมนุษย์ทุกคน พลังงานที่จะสามารถแทรกเข้าไปในสูญญากาศมิติที่
4 แห่งกาลเวลาได้ นั่นคือ
วิถีทางแห่งการหลุดพ้น
' นิพพาน ' ในพุทธศาสนานั่นเอง
*** หากต้องการนำบทความนี้ไปเผยแพร่หรือต้องการติดต่อนักเขียนกรุณาติดต่อมาที่ Boss_Deva@hotmail.com หรือ... @Noppamas Panmanee. Homosapiens Tame. / Po.box 260 Dusit Bkk. 10300
|