บทความพิเศษ

ทฤษฎีสัมพันธภาพ...ความจริงแห่งอนัตตาเพียงมายาหรืออัตตาที่เปลี่ยนแปลง?

น.ส. นพมาศ พันธุ์มณี


ากกล่าวถึงชื่อ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คงน้อยนักที่จะมีผู้ใดปฏิเสธว่ามิเคยได้รู้จักหรือเคยได้ยินนามของบุคคล ผู้นี้มาก่อน เพราะไอน์สไตน์นับเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่สรรค์สร้างผลงานและทฤษฎีสำคัญต่างๆ ในทางวิทยาศาสตร์ ขึ้นมามากมาย เช่น ปรากฏการณ์โฟโตอิเลคทริก การเคลื่อนที่แบบราวเนี่ยน ทฤษฎีสัมพันธภาพ ทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษ ฯลฯ เขาคือ อัจฉริยบุคคลผู้ค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพหรือที่คนทั่วไปรู้จักกันดีในรูปของสมการ E = mc2 อันเป็นหนึ่งใน ทฤษฎีที่สำคัญยิ่งต่อมวลมนุษยชาติ เป็นหนึ่งในทฤษฏีที่รังสรรค์ขึ้นมาซึงระเบิดปรมาณูและพลังนิวเคลียร์ อาจกล่าวได้ว่า ทฤษฎีสัมพันธภาพนี้เป็นทฤษฎีที่สามารถพลิกกฏแห่งจักรวาลได้เลยทีเดียว

ทว่า… จะมีมนุษย์สักกี่คนกันเล่าที่จะทราบถึงความหมายของสมการ E = mc2 ว่าแท้จริงแล้วมันคือ หลักแห่งอนัตตานั่นเอง เช่นนั้นแล้ว… ' อนัตตา ' เล่า คืออะไร…

คำว่า อนัตตา ( Soullessnees ) ในทางพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงความหมายของมันไว้ว่า ความเป็นอนัตตา คือความไม่มีตัวตน ความไม่ใช่ตัวตน ไม่มีตัวไม่มีตนที่แท้จริงของมันเอง กล่าวคือ'อนัตตา' เป็นเพียงความว่างเปล่า ไร้สิ้นซึ่งสิ่งใด เป็นสภาวะหนึ่งซึ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของอัตตา เป็นสภาวะหนึ่งที่ปฏิเสธซึ่งความคงเดิมของอัตตา และ ทุกสิ่งก็ล้วนเป็นอนัตตาทั้งสิ้น นั่นหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอัตตา คือสิ่งที่อยู่รอบตัวเราหรือแม้แต่ตัวเรา เอง ล้วนแล้วแต่ว่างเปล่าไร้สิ้นซึ่งสิ่งใด ตัวตนที่พบเห็นเป็นเพียงมายาแห่งอนัตตาที่ไร้ตัวตน

ทว่า ในความเป็นจริงที่เราสัมผัสได้ ชีวิตจริงที่ดำเนินเรื่อยไปในทุกวัน สรรพสิ่งที่ผ่านเข้ามาล้วนจับต้องได้ สัมผัสได้ เมื่อเราหิวเราทานอาหาร สัมผัสแห่งเรารับรู้ได้ว่าอาหารนั้นรสชาติเป็นอย่างไร อร่อยหรือไม่อร่อยอย่างไร เมื่อเรา เดินทางไปที่ใดที่หนึ่ง เราเดินทางไปถึงสถานที่แห่งนั้น สัมผัสแห่งเรารับรู้ได้ว่า ที่ที่เรายืนอยู่นี้มีสภาพเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี อย่างไร เราตื่นนอนตอนเช้าเราต้องอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เราสัมผัสกับน้ำเราก็รู้ว่าน้ำนั้นมีอยู่จริง เราหยิบแปรงสีฟัน หยิบยาสีฟัน เราก็สัมผัสรับรู้ได้ว่า มันมีอยู่จริง มีตัวมีตนอยู่จริง มันคืออัตตาที่มีอยู่จริง สามารถรับรู้ได้ สัมผัสได้ มิใช่ เพียงความว่างเปล่าดังที่อนัตตาในทางศาสนาได้กล่าวถึง เช่นนี้แล้ว สภาวะแห่งอนัตตาเล่า…คืออะไร…?

นั่นคือแท้จริงแล้ว อนัตตา ความไม่มีตัวตนแห่งพุทธศาสนานั้น หาได้ปฏิเสธอัตตาว่าไม่มีจริงแต่อย่างใดไม่ หากก็ใช่จะยอมรับว่าตัวตนแห่งอัตตานั้นมีอยู่จริงเพราะ…ไม่มีอัตตาใดที่มีตัวตนและคงรูปอยู่จริงอย่างแน่นอน นั้นหมายถึงว่า ไม่มีอัตตาใดที่เกิดขึ้นมาแล้วจะมีสภาพคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พุทธศาสนามิได้สอนให้ปฏิเสธอัตตา พุทธศาสนาเพียงสอนมิให้ยึดติดในอัตตามิให้ยึดติดในความเป็นตัวตนเป็นตนมิให้ยึดความคงเดิมในสภาวะใดสภาวะหนึ่งทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกฏแห่งกาลเวลาคนเราเมื่อเกิดขึ้นมาย่อมจะต้องมีการเจริญเติบโต จากเด็กไปสู่ผู้ใหญ่ จากผู้ใหญ่ไปสู่ชรา พัฒนาจากแรกเกิดไปสู่จุดสุดท้ายแห่งชีวิต ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วจะคงความเป็นเด็กไว้ได้ตลอดไป ความไม่จีรังของอัตตา ความไม่ยั่งยืนของสรรพสิ่ง เหล่านี้เองคือ อนัตตา ที่แท้จริง


Next

 



บทความเรื่อง : ศีล...ปกติแห่งความเป็นมนุษย์ / ทาน...การให้ที่ไร้ผล / ทฤษฎีสัมธภาพ...ความจริงแห่งอนัตตาเพียงมายาหรืออัตตาที่เปลี่ยนแปลง / ศาสนาพราหมณ์

GoTo
Home / saiyaved / Predict / Horror Dairy / Cosmic energy / Guestbook / Link / Webboard

    *** หากต้องการนำบทความนี้ไปเผยแพร่หรือต้องการติดต่อนักเขียนกรุณาติดต่อมาที่ Boss_Deva@hotmail.com หรือ...

    @Noppamas Panmanee. Homosapiens Tame. / Po.box 260 Dusit Bkk. 10300