สมาธิบำบัด.... สมาธิหมุนกับการักษามะเร็ง
Homosapiens Tame
 

หลักการของสมาธิหมุนเพื่อรักษาโรคนั้นเป็นศาสตร์ที่ค้นพบโดยพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ แห่งสำนักปฏิบัติธรรมรัตนประทีป (ดอยเกิ้ง) อ. แม่สะเรียง จ. แม่ฮ่องสอน

หลักการสมาธิหมุนของพระอาจารย์รัตน์ที่ได้ค้นคว้าแต่เบื้องแรกนั้น มีเอกสารยืนยันว่าสมาธิหมุนไม่เพียงแต่รักษามะเร็งเท่านั้น ยังรักษาโรคเอดส์ได้ ซึ่งวิธีปฏิบัติรักษาอาจมีความแตกต่างกันบ้างในรายละเอียด แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการใช้สมาธิรักษาโรคมะเร็งเท่านั้น (รายละเอียดอื่นๆ อาจค้นคว้าได้จากนิตยสารโลกทิพย์ ฉบับที่ 255 ปีที่ 12 สิงหาคม (ฉบับหลัง) 2536) ตามเอกสารค้นคว้ายังได้กล่าวด้วยว่าผู้ป่วยสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ด้วยตนเองด้วยการทำสมาธิโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกแต่อย่างใด

สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง

ตามทรรศนะของพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณแล้วเชื่อว่า ในโลกเรานี้มีพลังอยู่สองประการที่ได้รับจากดวงอาทิตย์นั่นคือพลังความเกิดอันเป็นพลังแรก ซึ่งมนุษย์จะใช้พลังนี้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ขณะช่วงเวลากลางวันตั้งแต่ตื่นนอนเรื่อยจนตลอดทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลาพักผ่อนหลับนอนแล้ว ในเวลานั้น พลังความดับอันเป็นพลังที่สองจะเข้ามาทำงานแทนที่ พลังทั้งสองชนิดนี้จะทำงานสับเปลี่ยนหน้าที่กันตลอดทุกวันหมุนเวียนกันไปเรื่อย ซึ่งหากร่างกายของเราใช้พลังทั้งสองนี้อย่างสมดุลเราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติมีสุขภาพแข็งแรง แต่หากพลังทั้งสองนี้เสียสมดุลเราก็จะเกิดเจ็บป่วย โดยเฉพาะเมื่อพลังดับมีมากกว่าพลังเกิดแล้วจะทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานลดน้อยลงเรื่อยๆ จนค่อยๆ ตายไปและเกิดเป็น "โรคมะเร็ง" ในที่สุด

ตามเอกสารเรื่องสมาธิหมุนของพระอาจารย์รัตน์ยังได้อธิบายถึงความเป็นมาของพลังความดับไว้อีก ว่าพลังดับนี้จะมีอยู่ในแร่กัมมันตภาพรังสีต่างๆ เช่นยูเรเนียม พลูโตเนียม หรือเมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวครึกโครมเรื่องพิษสงของธาตุโคบอลต์ 60 อันเป็นธาตุกัมมันตรังสีชนิดหนึ่งให้เป็นตามหน้าหนังสือพิมพ์และจอโทรทัศน์ต่างๆ ที่ทำให้มีคนเสียชีวิตมาแล้ว นั่นเป็นเพราะในธาตุกัมมันตรังสีจะมีปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาคือปฏิกิริยาลูกโซ่ เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะแผ่กระจายพลังงานออกจากตัวเองเป็นจำนวนมากไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นพลังความดับ เมื่อแผ่กระจายไปกระทบอนุภาคเล็กๆ ในอากาศแล้วก็จะกระจายพลังดับติดต่อกันไปเรื่อยๆ จนแผ่ไปถึงอนุภาคของสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกนี้ และเมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้รับพลังงานความดับเข้าไปแล้ว เซลล์ต่างๆ ในร่างก็จะเริ่มถูกทำลายตายไปกลายเป็นเซลล์มะเร็ง แล้วยิ่งหากเรากินอาหารที่มีพิษ (สารก่อมะเร็ง) เข้าไปด้วยแล้วก็จะไปสะสมอยู่ในอวัยวะต่างๆ จนเมื่อในที่สุดก็ป่วยกลายเป็นโรคมะเร็งขึ้นมา

นี่คือข้อความอธิบายถึงการเกิดเป็นโรคมะเร็งของพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโน ผู้ซึ่งปฏิธรรมตามแนวทางของสมาธิหมุน จะเห็นได้ว่าคำอธิบายตามหลักสมาธิของพระอาจารย์รัตน์นี้สอดคล้องถึงสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งในร่างกายของมนุษย์ตามหลักการแพทย์ที่กล่าวมาแล้วในบทต้นๆ อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

วิธีรักษาโรคมะเร็ง

ตามหลักการการปฏิบัติสมาธิตามแนวทางของพระอาจารย์รัตน์นั้นได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่จะทำการักษาไม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการปฏิบัติธรรมแต่ควรมีความเพียรพยายามตามสมควร ซึ่งหากเข้าใจถึงสาเหตุของการป่วยแล้วก็อานสามารถรักษาให้ถูกวิธีด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือฉายรังสี มีหลักการรักษาคือให้ผู้ป่วยใช้สมาธิจิตดึงเอาแสงอาทิตย์มารักษาเซลล์ส่วนที่ตายไปให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยปฏิบัติตามขั้นตอนห้าขั้นตอนข้างล่าง ซึ่งถือเอาคำอนุญาติของท่านพระอาจารย์รัตน์ซึ่งระบุไว้ในเอกสารว่าให้นำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานได้ดังนี้

1. ให้ผู้ป่วยหลับตานึกถึงภาพดวงอาทิตย์ ขณะที่หายใจเข้าให้นึกว่ากำลังดึงแสงกลางวันที่ออกสีเหมือนดวงอาทิตย์ ค่อยๆไหลเข้าสู่สมอง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าเป็นจังหวะๆ เท่ากับ 1 วินาทีของโลก (1 รอบของลมหายใจเข้าและออก เท่ากับ 1 วินาที) อย่าคิดถึงการหายใจออก พลังของแสงกลางวันนี้จะค่อย ๆ สะสมไว้ที่สมอง เมื่อผู้ป่วยทำนานๆ บ่อยๆจะรู้สึกเหมือนกับสมองหนักแบบตื้อๆ เป็นการบอกว่าผู้ป่วยปฎิบัติได้ถูกวิธีและมีพลังเก็บไว้มากพอแล้ว

2. เปลื่ยนความคิดจากภาพดวงอาทิตย์ให้คิดถึงตำแหน่งของร่างกายที่เป็นมะเร็ง

3. กลับมาคิดถึงพลังแสงที่เก็บไว้ที่สมองจากนั้นนึกภาพว่านำลำแสงจากสมองส่องไปยังตำแหน่งของมะเร็ง ผู้ป่วยจะเห็นแสงส่องตรงไปยังตำแหน่งของมะเร็งและเห็นภาพของเซลล์ที่ตายเป็นจุดมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของโรค ถ้าเป็นน้อยจะเห็นเป็นจุดสีคล้ำ ๆ ออกดำม่วง ๆ ถ้าหากเป็นมากจะเห็นตำแหน่งของมะเร็ง หรืออวัยวะที่เป็นมะเร็งจะมืดคล้ำเป็นสีออกดำม่วง ๆ

4. เมื่อผู้ป่วยรักษาจนเห็นภาพเช่นนี้แล้วให้นึกถึงภาพดวงอาทิตย์อีกครั้งและหายใจเข้านำแสงกลางวันเข้ามาพร้อมลมหายใจเข้าเหมือนกับข้อ 1. แต่ให้นำแสงลงมาที่ตำแหน่งของมะเร็งโดยตรง ไม่ต้องเก็บแสงไว้ที่สมองอีก ให้ทำเป็นจังหวะ ๆ เท่ากับ 1 วินาทีของโลก โดยปกติแสงนี้จะพุ่งไปยังตำแหน่งที่เป็นมะเร็งทันที ทำไปนาน ๆ จะรู้สึกว่าตำแหน่งที่เป็นมะเร็งนั้นจะค่อย ๆ ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ และจะได้กลิ่นเหม็นเน่าของสารพิษ ที่ตกค้างละลายออกมาพร้อม ๆ กับลมหายใจออกและซึมออกมาตามผิวหนังของผู้ป่วย

5. ขั้นสุดท้าย ให้ผู้ป่วยหลับตามองตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง จะเห็นว่ามะเร็งมีขนาดเล็กลง ถ้าเดิมเห็นเป็นจุด เล็ก ๆ ก็จะเห็นว่าจุดนั้นหายไปไม่มีจุดให้เห็นอีก แสดงว่าหายแแล้ว แต่ถ้าเป็นมากให้ค่อย ๆ ทำไป ขนาดของมะเร็งก็จะเล็กลงเรื่อยๆ จนหายไปในที่สุด เพื่อความแน่ใจท่านจะไปตรวจเช็คให้ละเอียดอีกทีก็ทำได้

หากรักษาถึงขั้นสุดท้ายและเช็คดูว่าเซลล์มะเร็งหายไปแล้วให้หยุดรักษาทันที มิเช่นนั้นพลังเกิดและดับอาจเสียสมดุลกันอีกก็ได้ อาจทำให้เจ็บป่วยแบบเดิมอีก อนึ่ง วิธีการนี้ใช้รักษาตนเองจงอย่างได้นำไปรักษาผู้อื่นเป็นอันขาดเพราะอาจจะไปรับเอากรรมของอีกฝ่ายมาไว้กับตัวก็ได้




สมาธิบำบัด : 1 / 2 / 3 / 4 / 5




Goto
Home / Religion / Mystery Series / Horror Daiary / Fortune / Cosmic Energy / UFO Diary / Special Board /
Party Board
/ Horror Board / Gallery / Star Love / Webboard

*** หากต้องการนำบทความนี้ไปเผยแพร่หรือต้องการติดต่อนักเขียนกรุณาติดต่อมาที่ Boss_Deva@hotmail.com หรือ...
@Homosapiens Tame. / Po.box 260 Dusit Bkk. 10300