สารภาพตามตรงอย่างต่อให้ อ.เฉลิมชัยเข้ามาอ่านก็ไม่อายเลยนะครับว่าแค่เปิดผ่าน ไม่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ละเอียดละอออะไรนักหนา ในบทสัมภาษณ์นั้นก็ได้ลงรูปวัดร่องขุ่นที่ออกแบบโดย อ. เฉลิมชัยเอาไว้ด้วย ในครั้งที่เห็นสายตาผมก็แค่บอกว่า "สวยดี" เท่านั้นจริงๆ ครับ

แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา (ยังเรียกได้ว่าต้นปีนะครับ) ผมถูกบังคับ + ฉุดกระชากลากถู จากคณะงานบุญที่ไปทอดผ้าป่าวัดหนองปลาขาว (ว่าซะใหญ่โต คณะก็มีกันแค่คนในทีม กับในครอบครัวเท่านั้นล่ะครับ) ให้ไปเที่ยวน้ำตกขุนไกร
แค่ขณะที่กำลังขับรถอยู่นั่นเอง แทนที่ผมจะได้ไปเที่ยวน้ำตกก็บังเอิญว่าสายตาอันซอกแซกของผมดันได้ไปปะทะเข้ากับวัดร่องขุ่นเสียก่อน
"เฮ้ย! วัด อ.เฉลิมชัยนี่!" หมู (เจ้าตัวอ้วนเพียงหนึ่งเดียวในทีมงาน) ที่เลี้ยงไว้อยู่ดีๆ ก็ตะโกนขึ้นมา
ทันทีรถก็เบรกดังเอี๊ยด!
ไม่ได้ตกใจครับ แต่ทุกคนเปลี่ยนที่หมายกันอย่างฉับพลัน ด้วยเพราะวัดร่องขุ่นที่เห็นด้วยตาตัวเองนั้นเรียกได้ว่าต่างกันลิบจากที่เห็นในหนังสือ ทีแรกที่อ่านพบผมก็คิดอยู่แล้วว่าถ้ามีโอกาสสักวันจะมาทำบุญด้วย แต่ไม่ได้ขวนขวายอะไรมากมายเลย แล้วอยู่ๆ โอกาสก็พุ่งเข้ามาชน มีหรือที่มนุษย์บ้าบุญอย่างพวกเราจะไม่ฉวยเอาไว้

เรื่องราวที่ว่าผมลงไปคุยอะไรกับหลวงพ่อ ไปทำบุญอะไรแบบไหนไม่ขอเล่านะครับ เพราะว่ากันตามตรงไม่ใช่สาระสำคัญอีกทั้งคนเขียนยังขี้เกียจอีกต่างหาก แต่ที่อยากจะบอกก็คือ

วัดร่องขุ่นสวยมากจริงๆ ครับ มองในภาพถ่ายก็ว่าสวยแล้ว แต่ของจริงสวยยิ่งกว่า ด้วยเพราะลายไทยสไตล์ อ.เฉลิมชัยนี่แหล่ะครับที่ผมชอบมาก ทั้งดูรก (นี่ชมนะครับ) ดูสวย ดูอลังการสุดๆ จริงๆ และกระจกเงาที่ประดับตกแต่งลวดลายนั้นยังสะท้อนแสงวิบวับกับดวงตะวัน ดูไกลๆ ในทีแรกผมเข้าใจผิดคิดไปว่าเอาเงินแท้มาประดับเสียอีก ทั้งยังลายกนกที่หากใครดูจากภาพวาดแล้วของ อ.เฉลิมชัย แล้วก็คงจะทราบว่ากนกที่ท่านเขียนมันลงตัว สมสัดส่วน และอ่อนช้อยแค่ไหน แต่การเอามาสร้างเป็นวัตถุอย่างนี้ ขนาดเห็นด้วยตาแล้วผมยังคิดไม่ถึงเลยว่าจะรังสรรค์ออกมาได้ละเมียดละไมเข้าขั้นระดับหัตถ์เทวะได้ถึงเพียงนั้น

บรรยายไปก็แค่นั้นล่ะครับ เสียเวลาเปล่า ของอย่างนี้มันต้องเห็นด้วยตัวเอง ผมขอบอกว่าความงามของวัดร่องขุ่นเป็นปัจจัตตังครับ เห็นเองรู้เอง ไม่เห็นก็เท่านั้น เล่าไปก็เสียเวลาเปล่า แต่ขอระบายสักเล็กน้อยเถอะนะครับ

อ้อ! มีอีกอย่าง ไหนๆ ก็ชมซะเวอร์แล้วก็ต่ออีกสักนิด ถ้าเข้าไปในโบสถ์นะครับ "กิเลนลายกนก" ตัวนั้นสวยสุดๆ คราวนี้ต้องเรียกว่าอิมเมจสวรรค์ครับ ผมพาน้องชายตัวจิ๋ว (อายุ 5 ขวบ) ไปด้วย เจ้านี่พิกลครับ ชอบศึกษาธรรม พูดอะไรที่มนุษย์ไม่พูดกัน เห็นอะไรแปลกๆ เจ้าอควาบอกว่าเห็นมังกรอยู่หลังเจ้านี่ ก็ว่ากันไปไม่เกี่ยวกัยเนื้อเรื่องหรอกครับ ที่เกี่ยวก็คือเจ้าตัวเล็กเป็นคนลากผมไปดูกิเลนตัวนั้นแล้วบอกกว่า
" นี่ นี่ มาดูสิ โบสถ์สวยจริงๆ มังกรข้างในสวยมาก " (ตัวแค่เนี้ย ดูพูดเข้า)
ผมก็เข้าไปดูครับ แล้วก็เถียงกับเจ้าตัวเล็ก เพราะไอ้ที่ผมเห็นมันไม่ใช่มังกรนี่ ผมว่ามันหงส์นา... เถียงไปเถียงมาเจ้าอควาก็เดินมาบอกว่า "กิเลน"
คงใช่ครับ เพราะ "กิเลน" เป็นสัตว์สวรรค์ มีรูปร่างกึ่งๆ สัตว์หลายชนิดซึ่งรวมมังกรอยู่ด้วย ในเมื่อดูแล้วมังกรก็ไม่ใช่หงส์ก็ไม่เชิง มันก็กิเลนล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ อ.เฉลิมชัยก็ช่วยไขแจ้งแถลงความด้วยแล้วกันนะครับว่ามันคืออะไร
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามความงามของมันก็สุดๆ บรรลือโลกจริงๆ ครับ บอกไปก็เท่านั้น ผมยังขอยืนยันคำเดิมครับว่า "ปัจจัตตัง"

ไปหน้าต่อเถอะครับ ตัวหนังสือไม่เยอะ ไม่เครียดแล้วครับ